ดอลลี่อาย

ดอลลี่อายคืออะไร ทำด้วยวิธีไหนได้บ้าง เหมาะกับใคร ดูแลอย่างไรให้อยู่ได้นาน

ดอลลี่อาย

ดอลลี่อาย หนึ่งเป็นเทรนด์ความงามแบบฉบับสาวเกาหลี ที่ยังได้รับความนิยม โดยการทำดอลลี่อาย เป็นการเติมชั้นใต้ตา เพื่อให้ดูน่ารัก ดวงตามีมิติ และยังช่วยทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลงได้ สำหรับใครที่สนใจการทำดอลลี่อาย เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทำดอลลี่อายไว้ทั้งหมด เหมาะกับใครบ้าง ทำวิธีไหนได้บ้าง อะไรที่บ้างควรต้องรู้ไว้ สามารถศึกษาได้ในบทความนี้ 

ดอลลี่อาย คืออะไร ?

ดอลลี่อาย (dolly eyes) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ love band เป็นหนึ่งในเทรนด์ความงาม ที่ได้รับความสนใจจากสาว ๆ เนื่องจากช่วยให้ใบหน้าดูน่ารัก ดูสดใส และอ่อนเยาว์ โดยลักษณะของดอลลี่อาย คือ มีเนื้อบริเวณขอบตาล่าง ชิดขนตาที่ดูนูนหนาขึ้นมา ทำให้ดวงตาดูกลมโต ใต้ตาตุ่ย ๆ ดูน่ารัก บ้องแบ๊วตามสไตล์สาวเกาหลี่-ญี่ปุ่น

ลักษณะดอลลี่อาย_

การที่บริเวณขอบตาดูหนาขึ้นมีส่วนช่วยใบหน้าดูหวานขึ้นได้ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ทุกคนมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่อาจะมากน้อย มองเห็นชัดไม่เท่ากัน รวมถึงเมื่อครั้งยังเด็กจะสามารถมองเห็นดอลลี่อาย ได้ชัดกว่าเมื่ออายุเริ่มมาขึ้น สาเหตุจากกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาบางลง หรือในบางคนมีปัญหาถุงใต้ตาที่นูนขึ้นมาจนกลบดอลลี่อายจนหายไป 

ดอลลี่อาย เหมาะกับใคร ?

การทำดอลลี่อายโดยรวมจะดูหวานขึ้น และดูหน้าเด็กลง จึงเหมาะกับ

  1. ผู้ที่ต้องการดูสดใส ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ 
  2. ผู้ที่ต้องการเพิ่มมิติให้ดวงตา ทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น
  3. ผู้ที่ต้องการเพิ่มความฉ่ำวาวให้ใต้ตา ดูชุ่มชื้น

การฉีดดอลลี่อาย มีวิธีไหนบ้าง ?

วิธีการทำดอลลี่อายในปัจจุบัน มี 3 วิธีได้แก่

1. ฉีดฟิลเลอร์ทำดอลลี่อาย

การฉีดฟิลเลอร์คือฉีดสารสารเติมเต็ม hyaluronic acid เข้าไปบริเวณขอบตาล่างชิดขนตาในแนวนอน เพื่อเพิ่มโวลลุ่มให้ของตาล่าหนาขึ้น เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน และใช้ฟิลเลอร์ เพียง 1 CC เท่านั้น

ก่อน-หลัง ฉีดดอลลี่อาย

หลังฉีดสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนทันที ที่สำคัญฟิลเลอร์แท้มีความปลอดภัย ประกอบกับหากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็จะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์ทำดอลลี่อาย มีความปลอดภัย ผลลัพธ์ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ ไม่บวมช้ำ 

ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ทำดอลลี่อายสามารถทำร่วมการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูสดใส แก้ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ หรือผู้มีปัญหาถุงใต้ตาได้ด้วย 

2. ฉีดไขมันทำดอลลี่อาย

การฉีดไขมันทำดอลลี่อายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถเพิ่มความหนาของขอบตาล่างได้ โดยต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะของแพทย์เพื่อให้ได้ปริมาณไขมันที่นำมาใช้ฉีด พอดีกับลักษณะของดอลลี่อายที่ เราต้องการ 

สำหรับวิธีการของการฉีดดอลลี่อายด้วยการเติมไขมัน คือ การนำไขมันของตัวเรามาใช้ โดยแพทย์จะดึงจากบริเวณอื่นของร่างกาย มาเติมจัดเรียงใหม่บริเวณของตา โดยผ่านกระบวนการ Fat transfer 

หากพูดความนิยมจะได้รับความนิยมน้อยกว่าการฉีดฟิลเลอร์ เพราะการฉีดไขมัน เป็นวิธีที่ต้องเจ็บตัว 2 ครั้ง จากการดึงไขมัน และขั้นตอนการฉีดเติมดอลลี่อาย รวมถึงในบางรายอาจปลูกไขมันไม่ติด ทำให้หลังฉีดไขมัน ผิวบริเวณขอบตาไม่เรียบ  แต่ข้อดีคือเป็นไขมันของตัวเอง โอกาสแพ้จึงมีน้อยมาก   

ฉีดไขมันทำดอลลี่อาย

3.ศัลยกรรมผ่าตัดทำดอลลี่อาย 

การศัลยกรรมผ่าตัด เพื่อทำดอลลี่อายเป็นการทำให้เนื้อเยื่อส่วนที่ติดกับขนตาล่างนูนเด่นขึ้นมาเล็กน้อย 
สามารถใช้ใช้เนื้อเยื่อตัวเองหรือใช้เนื้อเยื่อสังเคราะห์ ขึ้นอยู่กับความต้องการและดุลพินิจย์ของแพทย์ 

หลังทำจะมีแผลยาวประมาณ 2-4 มม.บริเวณหัวและหางตา ที่ใช้ในผ่าตัดประมาณ 30 นาที และกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ประมาณ 1 สัปดาห์ แพทย์จะนัดมาตัดไหมอีกครั้ง แม้จะเจ็บตัวแต่ก็เป็นการทำดอลลี่อายที่ให้ผลถาวร ต่างจากฟิลเลอร์ที่สลายได้เองตามชาติ หรือ ฉีดไขมันที่ ร่างกายอาจดึงไขมันไปใช้ ทำให้ ดอลลี่อายหายไป 

ถุงใต้ตา กับ ดอลลี่อาย ?

สำหรับใครที่สงสัยระหว่าง ดอลลี่อายและถงใต้ตา  ทั้งสองแบบนี้ เป็นคนละส่วนกันและอยู่กันคนละตำแหน่ง ถุงใต้ตา คือถุงไขมันบริเวณใต้ตา จะมีขนาดใหญ่สังเกตได้ชัดบริเวณใต้ตา สามาถเห็นได้ชัดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ผิวมีความหย่อนคล้อย ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูโทรมและมีอายุ

  • ดอลลี่อาย คือมัดกล้ามเนื้อบริเวณขอบตาล่าง ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง เห็นได้ชัดเมื่อยิ้มหรือหัวเราะ 
  • ถุงใต้ตา เป็นถุงไขมันอยู่บริเวณใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรมและมีอายุ 
ดอลลี่อายและถุงใต้ตา
ดอลลี่อาย VS ถุงใต้ตา 

ข้อควรระวังในการฉีดดอลลี่อาย

บริเวณใต้ตาเป็นจุดที่มีเส้นเลือดสำคัญ ๆ ค่อนข้างมาก และการฉีดฟิลเลอร์ดอลลี่อายจะต้องฉีดชิดขอบตาล่าง จำเป็นต้องใช้เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ในการฉีด เพื่อลดโอกาสในการบวมช้ำ หรือเกิดข้อผิดพลาดที่ไม่พึงประสงค์ เช่น 

  • ในคนที่ผิวใต้ตาบางมาก หลังฉีดอาจทำให้เกิดรอยแดงหรือรอยช้ำได้ แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน และยุบบววมใน 7-14 วัน
  • ในขั้นตอนการฉีดแพทย์ต้องประเมินปริมาณในการฉีดที่พอดี กันทั้ง 2 ข้าง หากแพทย์ไม่ชำนาญ อาจทำให้ดวงตาดูไม่เท่ากันได้ หรือฉีดปริมาณมากไปทำให้ตา ใต้ตาดูเต่ง บวม ไม่สวยงาม 

การดูแลหลังฉีดดอลลี่อาย

  • หลังฉีดดอลลี่อาย ห้าม แกะ เกา กด นวด บริเวณที่เพิ่งฉีด เพราะอาจทำให้บวมช้ำ 
  • ในคนที่ผิวบางแล้วเกิด รอยเข็ม รอยแดง สามารถหายได้เองใน 2-3 วัน และเข้าที่ใน 7-14 วัน
  • งดล้างหน้า ถูหน้า และทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน 
  • งดทำเลเซอร์ร้อน ทรีทเม้นต์และซาวน่า 14 วัน
  • แนะนำให้อยู่ในที่อากาศเย็นและหลีกเลี่ยงความร้อน
  • งดเครื่องดื่มและอาหารบางชนิด เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารเผ็ดร้อน อาหารดิบที่อาจจะไม่สะอาด 
  • งดสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง

ฉีดดอลลี่อายที่ไหนดี ?

จากที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นว่าการฉีดดอลลี่อายต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจฉีดดอลลี่อายที่ไหนดี ต้องมั่นใจก่อนว่าแพทย์ที่ฉีดให้มีประสบการณ์มากพอ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และพิจารณารายละเอียดเหล่านี้ร่วมด้วย 

  • คลินิกต้องได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง และมี มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก แสดงอย่างชัดเจน 
  • แพทย์ที่ฉีดให้ต้องมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 5-10 ปี เพื่อความแม่นยำในการประเมินจุดที่ฉีดและปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อย่างแม่นยำ
  • ต้องมั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน แนะนำก่อนควรขอให้แพทย์แกะกล่องให้ดูต่อหน้า หรือในบางคลินิกที่ใช้ของแท้แล้วสะดวกใจ มักจะแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า และให้กล่องกลับบ้านเพื่อที่เราจะได้สามารถตรวสสอบเลข lot กับบริษัทนำเข้าได้
  • ควรดูรีววจากผู้ใช้บริการจริง ของคลินิกที่เราสนใจ เซิร์ทหาข้อมูลหลาย ๆ ช่องทาง ไม่เฉพาะรีวิวจากคลินิกเพียงอย่างเดียว 

สรุป

การฉีดดอลลี่อาย เป็นหนึ่งในความนิยมเฉพาะบุคคล ที่ต้องการให้ใบหน้าของตนเองดูน่ารัก สดใส และอ่อนกว่าวัย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการ จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูล และเลือกคลินิกเสริมความงามดี ๆ เพื่อความปลอดภัย ได้ผลลัพธ์สวยงามเป็นธรรมชาติตามที่คาดหวัง

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *